Law of curiosity กฎแห่งความสงสัย

กฎแห่งความสงสัยใคร่รู้ หรือ law of curiosity หนึ่งใน 15 กฎ แห่งการพัฒนาตัวเองจาก
หนังสือ 15 Invaluable laws of growth โดย John C Maxwell

Interested in the book: https://s.shopee.co.th/8fLTV9QouB

หนังสือที่ถ่ายทอดวิธีการพัฒนาตัวเองอย่างเรียบง่าย ผ่านกฎ 15 ข้อ ที่จะทำให้ทุกคนค้นพบและรู้จักกับศักยภาพของตนเองที่ถูกซ่อนอยู่

บทความความนี้อาจจะไม่ได้กล่าวถึงทั้งหมด 15 กฎที่ถูกพูดถึงในหนังสือ แต่จะเลือกมาพูดถึงเพียงหนึ่งกฎ ที่ส่วนตัวเรามองเป็นสิ่งที่น่าสนใจและควรจะหยิบจับมาพัฒนาให้เป็นนิสัย

ซึ่งนั่นก็คือ กฎแห่งการสงสัยใคร่รู้

คำว่า “ทำไม” ช่วงส่งเสริมการพัฒนา – John C Maxwell

ย้อนไปเมื่อ 8-9 ปีก่อน สมัยเริ่มทำงานใหม่ๆ ด้วยเอกสารข้อมูลที่เยอะมากจนทำงานผิดพลาด ไอ่เราก็เด็กตัวกะเปี๊ยก ไม่กล้าเอ่ยปากถาม เลยทำงานด้วยความเข้าใจตัวเอง ที่นี้ก็ยับเลยย
(โดนด่ายับบบ 555 +) เย้ยยย

แต่มีคำพูดหนึ่งที่หัวหน้าพูดตอนนั้นแล้วยังรู้สึกกินใจมาจนถึงทุกวันนี้คือ
“ถ้าเราอยากเก่ง ให้รู้จักสงสัย และตั้งคำถาม” แต่ … ความตัวเราในตอนนั้นก็ยังไม่ค่อยเข้าใจกับประโยคนี้มากสักเท่าไหร่ จะให้ตั้งคำถามใน ณ ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นว่าอย่างไร

มันรู้สึกกลัวว่าถ้าถามออกไปมันจะดูโง่ หรือเสร่อ รึปล่าว เพราะตอนเด็กๆ เวลามีคำถามอะไร ก็มันจะได้คำตอบที่ขึ้นต้นด้วยประโยคที่ว่า “แค่นี้ก็ไม่รุ้เหรอ…..” มาก่อนคำอธิบายเสมอ (เราก็ได้แค่ เอ้าาา ก็กูไม่รู้นิน่า 5555 + ) แต่มันก็เป็นเรื่องเมือนานมาแล้ว กลับเข้าเรื่องกันดีกว่า

“ถ้าอยากเก่งให้รู้จักสงสัย”

15 Invaluable laws of growth เป็นหนังสือที่ถูกพูดถึง และมีรีวิวเยอะมากๆ ใน social platform ต่างๆ เลยตัดสินใจซื้อมาประดับ ตู้หนังสือไว้ช่วงหนึ่ง 555555 + 🤣 ตั้งแต่สมัยงานหนังสือเมื่อเดือนตุลาคม 2025 และดองเค็มมาจนถึงทุกวันนี้

และด้วยเหตุที่จะใกล้ขึ้นปีใหม่มันก็จะต้องมี New year’s resolution อย่างใครเขาอะเน๊าะ เลยนึกถึงหนังสือเล่มนี้พอดี เอามาอ่านหาแรงบันดาลใจในการพัฒนาตัวเองกันหน่อยดีกว่า 2026 จะเป็นปีที่เอาจริงเอาจังมากกว่าเดิมสักที เย้

เนื้อหน้าในหนังสือเล่มนี้อ่านและเข้าใจง่ายมากๆ หลายๆคนเห็นชื่อเรื่องแล้วก็คงมันต้องเป็นภาษากฎหมายแปลยากๆ เข้าถึงยากแน่ๆ แต่ไม่เลย ผู้เขียนอธิบายไว้ได้อย่างหน้าสนใจ รวมถึงมี solution ให้เราได้ลองทำตาม ชวนคิดไปกับทุกๆหน้าที่ได้อ่าน ซึ่งมันจะช่วยให้ตัวเราเข้าถึงและค้นพบ ศักยภาพของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ

จาก 15 กฎของการพัฒนาตัวเองของหนังสือเล่มนี้ เราก็อยากจะเอามาเล่าให้ฟังทั้งหมดแต่ว่ากลัวจะยาวเกินไป แล้วก็อยากให้ทุกคนได้ลองสือเล่มจริงมาอ่าน เป็นหนังสือที่คู่ควรแก่การอ่านฉบับเต็มอย่างจริงจัง

ดังนั้นเเราขอเลือกมาพูดถึงเพียง 1 ใน 15 ข้อ ซึ่งกฎข้อนี้ส่วนตัวเรามองว่าเป็นหนึ่งทักษะสำคัญที่เป็นส่วนหนึ่งของคนที่อยากพัฒนาตัวเองให้ก้าวไปอีกขั้น นอกจากการสร้างวินัย ตามหาความตั้งใจ และการสร้าง thinking system ให้ตัวเองแล้ว อีกหนึ่งทักษะที่จะถูกมองข้ามไปไม่ได้เลยก็คือ

“ความสงสัยใครรู้ (Curiosity)”

🧩 กฎข้อที่ 12 Law of curiosity

บางคนมองสิ่งต่างๆ ที่อยู่ตรงหน้าและถามว่าทำไมจึงเป็รเช่นนั้น แต่บางคนฝันถึงสิ่งที่ไม่เคยมี และถามว่าทำไมไม่สร้างมันขึ้นมาเองเลย -John C Maxwell-

เพียงแค่คำขึ้นต้นของประโยคสั้นๆ ว่า “ทำไม” ที่จะนำทุกคนเปลี่ยนจากความรู้สึกธรรมดาสู่ความรู้สึกที่มันน่าตื่นเต้น จากการค้นพบในสิ่งที่เราไม่รู้

ซึ่งความสงสัยใคร่รู้อาจจะไม่ใช่นิสัยที่ทุกคนมีติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่การเริ่มฝึกสงสัยมันช่วยผลักดันให้ตัวเราก้าวเข้าสู่พื้นที่แห่งการค้นหา และนั่นแหละคือตจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้

ตัวอย่างเช่น เราอาจจะเคยตั้งคำถามว่า เราเรียนรู้พวกเรื่องยากๆ อย่าง Stat , Econ หรือ Coding ไปทำไม คำถามที่นำพาไปสู่การค้นหา เมื่อเราได้พบกับ area ที่ช่วยให้เราเข้าใจสิ่งเหล่านั้น และสามารถเชื่องโยงกับจุดที่เรายื่นอยู่ได้อย่างมหัศจรรย์ มันเป็นจะให้ความรู้สึกที่แบบ แม่งว้าวมาก มันมีสิ่งนี้อยู่ในโลกด้วยเหรอ และพอเชื่อมโยงกันได้แล้ว มันจะพาเราไปพบเจอกับอะไรที่น่าสนุกๆ อีกมั้ยนะ

เรามองว่าจุดนี้แหละคือ turning point ของคนที่คิดกำลังจากก้าวออกจาก วงการการเรียนรู้ หรือการพัฒนาตัวเอง ✌ 📚

🧩10 วิธีที่จะช่วยเปลี่ยนจากคนที่ไม่ค่อยสงสัย สู่คนที่คอยตั้งคำถาม

ด้วยพื้นที่ของความรู้ที่เรามีอาจจะมีอยู่อย่างจำกัด มันเลยจะเป็นเรื่องยากในการมองเห็นภาพใหญ่ของเรื่องที่เราเพิ่งรู้ และการจุดเชื่อมโยงของสิ่งนั้นคนจะเป็นเรื่องที่ยาก เลยทำให้เรารู้สึกอยากที่จะหยุด โดยที่ไม่สงสัยต่อเลยว่า ทำไมมันถึงต้องทำสิ่งนี้กันนะ

ฉะนั้น เรามาทำความรู้จักกับ 10 วิธีที่จะช่วยให้เราก้าวข้ามกำแพงบางๆจากคนที่ไม่ค่อยสงสัย มาเป็นคนที่คอยตั้งคำถามกันดีกว่า

1. Trust

เริ่มจากความเชื่อในตัวเองก่อนเลยว่าเราคือคนที่ เรียนรู้ พัฒนา และเปลี่ยนแปลงได้ การทลายกรอบเดิมๆ ที่ปิดกั้นเราอยู่ จะทำให้เราก้ามข้ามความกลัวหรือข้อจำกัด อะไรหลายๆ อย่างที่อยู่ในตัวเราได้ เช่น เราอยากลองเปลี่ยนสายจาก Account มาลองทำงานด้าน Data บาง เขาทำยังไงกันนะ แล้ว stack skills ที่เราต้องเรียนรู้ ทำไมเขาถึงต้องเริ่มจากสิ่งนี้ ต่อด้วยเรื่องนั้น

Area การเรียนรู้ก็เหมือนการตามหาจิ๊กซอร์เข้ามาประกอบกับจนกว่าจะเป็นภาพใหญ่ที่สวยงามและการก้าวเข้าสู่ area นี่มักเริ่มต้นด้วยความสงสัยและการตั้งคำถาม โดน based จากความเชื่อที่ว่า เราเองก็พัฒนาได้

สิ่งเดียวที่แยกคนช่างสงสัย และคนพัฒนาตัวเองออกจากคนทั่วไป ได้มากที่สุดคือ การเชื่อว่าตัวเองสามารถ เรียนรู้ พัฒนา และเปลี่ยนแปลงได้ -John C Maxwell-

2. Breaking the rule

การอนุญาติให้ตัวเองได้สงสัย และตั้งคำถามเหมือนเด็กๆ ที่พยายามอยากรู้เรื่องนั้น เรื่องนี้อยู่ตลอดเวลา เพราะการใช้ชีวิตและการเรียนรู้ไม่เกี่ยวกับอายุ ฉะนั้นให้ความสงสัยและตั้งคำถามนี่แหละจะช่วยให้คุณได้สร้างกรอบความคิดใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา

3. Favorite wording is “WHY”

มีนักวิทยาศาสตร์และนักปรัญชาท่านหนึ่งชื่อว่า Georg Christoph Lichtenberg ชาวเยรมัน ได้กล่าวไว้ว่า “ก้าวแรกสู่ความรอบรู้ คือการตั้งคำถามกับทุกสิ่ง และ ก้าวสุดท้ายคือการค้นพบคำตอบ
ของทุกสิ่ง”

โดยส่วนใหญ่แล้วคำถามที่เฉพาะเจาะจงจะถูกขั้นต้นด้วยคำว่า “ทำไม” ซึ่งมันจะช่วยให้เรา lead ไปสู่การจุดประกายความคิดใหม่ๆ และความเข้าใจเรื่องนั้นๆ อย่างลึกซึ้ง

เพราะคำว่า “ทำไม” จะช่วยให้เราระบุตัวตนของปัญหาทีเผชิญอยู่ได้อย่างชัดเจน
ซึ่งการตั้งคำถามมากกว่ารอตอบคำถาม ถือเป็นสิ่งที่สนับสนุนการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง

จงตั้งคำถามว่าทำไม ค้นหาคำตอบ ประเมินสิ่งที่เราค้บพบไปเรื่อยๆ นี่แหละสูตรสำเร็จของการพัฒนาตัวเองอย่างแท้จริง

4. Surrounding with curiosity situation

ในชีวิตประจำวันอาจจะมีเหตุการณ์น้อยมากที่จะให้เรารู้สึกอยากจะตั้งคำถามมากกว่าการค้นหาคำตอบ แต่ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้เราต้องตั้งหน้า ตั้งตาหาคำตอบเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแถบไม่ได้มีเวลาคิดทบทวนกับคำตอบเหล่านั้นมากนัก

ฉะนั้นการพยายามเอาตัวเองไปทำความรู้จัก หรือ ผู้คุยกับคนที่มีทักษะการตั้งคำถาม หรือมองภาพไกลๆ มันจะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้เราได้ปรับมุมมองหรือมองภาพจากสถานการณ์ ที่เราเจออยู่ออกว่าเมื่อเราอยู่ในจุดนั้น เราควรตั้งคำถามออกมาแบบไหน แล้วมองเหตุการณ์ต่อไปอย่างไร

5. Learning new things every day

การเรียนรู้สิ่งใหม่ที่ไม่ใช่แค่การนั่งเรียนอย่างเดียว แต่รวมไปถึวการออกไปพบเจอประสบการ์ใหม่ๆ และกลับมาทบทวนกับเรื่องราวที่เคยพบเจอ หรือ ประสบการณ์ที่ผ่านมา ว่าทำไมเหตุการณ์แบบนี้ถึงเกิดขึ้น ดีหรอไม่ แล้วมันสามารถเอาไปปรับใช้ในกับเหตุการณ์อื่นๆ ไหนได้อีกบ้าง เพื่อทำให้เกิดการเรียนรู้ในหลายๆ รูปแบบ

ประสบการณ์ไม่ใช่ครูที่ดีที่สุด แต่ต้องเป็นประสบการณ์ที่ผ่านการคิดทบทวนมาแล้ว
-John C Maxwell-

6. Failure acceptance

รู้จักผูกมิตรกับความล้มเหลว เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และป้องกันไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นอีก เพราะเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความล้มเหลวได้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถาณการณ์แบบไหน และวิธีการที่จะพัฒนาตัวเองให้ได้ไกลเราต้องยอมรับและปรับปรุงสิ่งๆ นั้นเพื่อก้าวข้ามมันไป ไม่ใช่การถอยห่างจากสถานการณ์เหล่านั้น โดยเพิ่มความสงสัยลงไปให้เกิดกระบวนการแก้ไขปัญหา

7. Don’t look for only the answer, look for challenge

ทุกคนก็คงคุ้นเคยกับคำว่า “ทุกปัญหามีทางออกเสมอ” แต่คนส่วนใหญ่ดันมองหาคำตอบเพียงคำตอบเดียวเพื่อแก้ไขปัญา เมื่อเจอคำตอบแล้วเราก็จะหยุดมันไม่แค่นั้นโดยไม่สงสัย หรือ คิดต่อว่ามันจะสามารถแก้ไขปัญหานั้นๆ ได้ในระยะเวลานานแค่ไหน แล้วถ้ามันเกิดขึ้นมาอีกในรูปแบบใหม่ เราจะทำอย่างไร ถ้าเป็นแบบนั้นคงจะกลายเป็นจุดจบของการเรียนรู้เป็นแน่ 😥

ฉะนั้นจะดีกว่ามั้ย ถ้าเราลองท้าทายกฎเกณฑ์เดิทๆ ด้วยการมองหาวิธิใหม่ๆ นอกกรอบที่เคยมี ให้กับปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ จากการวิ่งหาคำตอบเพียงหนึ่งเดียว สู่การหาแล้วตั้งคำถามต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้เกิดวิธีการแก้ไขและป้องกันในระยะยาว

การ challenge กับอะไรแบบนี้มันจะทำให้เราไม่รู้สึกเบื่อ กับการตามหา solution เพียงหนึ่ง และลบล้างความจำเจที่เราเคยมีไปเลย

8. It’s okay to look stupid sometimes

เราไม่จำเป็นต้องทำเหมือนรู้ทุกสิ่งและทุกอย่างตลอดเวลา และการพูดว่าไม่รู้ ไม่เข้าใจ ไม่ใช่เรื่องน่าอาย การลองทำอะไรใหม่ๆ หรือการตั้งคำถามแบบเด็กๆ โดยไม่สนใจว่าใครจะมองเราว่าซื่อบื้อรึปล่าว ผลลัพธ์คือการที่เราได้เรียนรู้ นั่นคือการเปิดโลกใหม่อีกใบแล้ว

การถูกมองว่าเราขาดความรู้ ดีกว่าการไม่รู้อะไรเลย จงลดความทะนงตนของตัวเอง และตั้งคำถามอยู่เสมอ -Richard Hamilton-

9. Be outside the box

เพราะชีวิตคือการทดลอง ยิ่งทดลองได้มากเท่าไหร่ ยิ่งเรียนรู้ได้มากเท่านั้น

ความรู้และความคิดดีๆ (อยู่ในอากาศ เย้ยยย😆) อยู่ทุกหน ทุกแห่งมันอยู่ที่ว่าเราจะพาตัวเราออกจากกรอบกำแพงของคำว่า “เราไม่เคยทำสิ่งนี้มาก่อน” เพราะทรัพยากรความรู้ และความคิดที่มีมากมายไม่มีทางวิ่งเข้ามาใส่เราก่อนแน่ๆ มีแค่เพียงตัวเราเท่านั้นแหละที่จะพาตัวเองออกไปหามัน

ความรู้อยู่ในอากาศ อยู่ที่ว่าเราจะเอาหัวเราออกไปรับเมื่อไหร่ 55+ (หยอกกก😆 )

10. Having fun with life

การยอมรับความล้มเหลว หรือความเสี่ยง มันอาจจะดูเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะยอมรับ แต่ถ้าเราเลือกที่จะสนุกไปกับมาระหว่างการเดินทางสู่ความสำเร็จมันจะทำให้เราไม่เบื่อกับการเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง

ถ้าชีวิตของเราเหมือนเกม เกมหนึ่ง ที่เรา start level 1 ด้วยการเป็น Novice โดนมีเพียงมีดสั้นๆ เล่มเดียวเป็นอาวุธ ถ้าเรายังตี monster ตัวเดียวไปเรื่อยๆ เมื่อไหร่เราจะถึง level 10 แล้วเปลี่ยนอาชีพ ความสนุกของมันคือการตามหาสถานที่ใหม่ๆ การอัพ skill เพื่อให้เราได้สู้กับ monster ได้หลากหลายและท้าทายความยากมากขึ้น

ความสงสัยใคร่รู้ถือเป็นทักษะๆ หนึ่งที่ต้องอาศัยการฝึกฝน และพัฒนาค่อนข้างยากมากกว่าทักษะอื่นๆ ของเราเรียนรู้ หวังว่า คำแนะนำ 10 ข้อ จากกฎข้อ 12 จากหนังสือ 15 Invaluable laws of growth จะเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยให้เราได้ฝึก และมองเรื่องต่างๆในอีกมุมมอง

ช่วยส่งเสริมทักษะการตั้งคำถามและความสงสัยให้เราได้ออกไปค้นพบกับความรู้ใหม่ๆ ที่ไม่มีที่สิ้นสุด

และเราเชื่อเสมอว่าโลกอันกว่าใหญ่นี่ยังมีเรื่องราวมากที่รอให้เราได้ไปพบเจอ เพียงแค่เริ่มจากคำถามสั้นๆ ที่เริ่มต้นจากคำว่า “ทำไม”

ขอให้ทุกคนสนุกกับการเดินทางนะคะ 🖤

buying the book: https://s.shopee.co.th/8fLTV9QouB

Tags:

Leave a comment