Journey the Journal

Balance เวลายังไงดี สำหรับพนังงาน Full time อย่างเรา แต่ก็อยากที่จะพัฒนาตัวเองไปด้วย

ทำงานขั้นต่ำก็ 8 ชั่วโมง ก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้วววว ~~
เอาแรงจากไหนมานั่งเรียนอีกกกกกกกกกกกกกก ถ้าใจเรามี passion ที่แรงกล้าอย่างเดียวอาจจะยังไม่เพียงพอในการเดินทางไปสู่เป้าหมาย เพราะระหว่างทาง มันมีอะไรเข้ามา interrupt เต็มไปหม๊ดดด

เราก็เป็นคนนึงที่ต้องทำงานประจำ แล้วก็มี Goal ที่ยิ่งใหญ่อยากไปให้ถึง ก็เลยลองศึกษาหาวิธีการจนมาเจอ video จากช่องของ Justin Sung คุณหมอที่ทำคลิปสอนเทคนิดต่างๆ ในการพัฒนาตัวเอง
เป็นอีกช่องที่เราชอบฟัง แล้วก็หยิบจับเทคนิค ที่เหมาะกับเรามาปรับใช้

และนี่ “How to Build Systems to Actually Achieve Your Goals” คลิปที่ฟังแล้วมีความน่าสนใจ เป็นการปรับเปลี่ยนมุมมองแค่นิดเดียว เพื่อช่วยให้เราสร้างระบบความคิดขึ้นมาเป็นการกรอบให้เส้นทางการเดินทางไปถึงเป้าหมายของเราเป็นระเบียบมากขึ้น

How is someone meant to balance working full-time with constantly learning and upskilling while getting enough sleep. – Justin Sung-

ประโยคฮุคใน 8 วินาทีแรกที่เข้ากล่าว ดึงดูดความสนใจเราได้อยู่หมัดเลย
แล้วถ้าเจ้าวิธีการที่เขากำลังจะพูดถึงสามารถช่วยให้เราบาลานซ์ระหว่าง
สิ่งที่ต้องทำ กับ สิ่งที่อยากจะทำ ได้ ก็มันคงไม่เสียหายอะไรถ้าเราจะเปิดให้วิดิโอมันเล่นต่อไป ~

🧩 Thinking in system

คือการนำรวม Process ที่เราสร้างให้กับตัวเองโดยลดการถึงพาของ Well Power and Motivation เพราะถ้าชีวิตต้องขับเคลื่อนด้วยสองสิ่งนี้มากเกินไป วันไหนที่ไฟมันมอดลงและหาเชื่อเพลิงอย่าง เจ้าสองสิ่งที่พูดถึงได้ไม่ทันถ่วงที ไฟแห่งการเดินทางรอบนี้ดับสนิทแน่ๆ

สร้าง Process ให้ตัวเองด้วยการ connect the dots เชื่อมโยงรูปแบบ หรือ วิธีการที่ทำแล้วมันเข้ากับเรามากที่สุด โดยต้องเป็นวิธีที่เราทำแล้วไม่รู้สึกฝืนตัวเอง และทำมันได้เรื่อยๆ ซึ่งสิ่งเหลานี้เแตกต่างจากการตั้งใจบังคับให้ตัวเองต้องทำ หรือกำหนด Tasks ขึ้นมาให้กับชีวิต

เช่น เช้าวันนี้ตั้งใจว่าจะกลับให้ได้ 1 session หลังเลิกงาน แต่แล้วสิ่งที่ไม่ขาดคิดก็เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานด่วนที่เข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว กลับมาถึงบ้านก็หมดแรงจะทำอะไรต่อแล้ว สิ่งเหล่านี้แหละที่ interrupt ความตั้งใจของเรา และก็ทำให้เราเดินทางไปไม่ถึงจุดหมายสักที

When you’re busy, it’s difficult to turn these intentions into reality. – Justin Sung-

🧩 Turn intention in planning

การปรับมุมมองที่เปลี่ยนจากความตั้งใจ ให้เป็นแบบแผนมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น ปีนี้จะตั้งใจอ่านหนังสือให้มากขึ้น ลองเปลี่ยนเป็นช่วงเวลา 1 ชั่วโมงก่อนอนของทุกวัน เราจะอ่านหนังสือ 1 บท ถึงแม้ว่ารูปประโยคอ่านดูแล้วมันก็ดูจะไม่แตกต่างกันมาก แต่รูปแบบปรับเปลี่ยนมันทำให้เราเห็นภาพที่ชัด ช่วงเวลาที่แน่นอน และสิ่งที่เราจะทำชัดเจน

🧩 What’s if your plan get interrupted

จุด pain point ที่ทำให้เราไปไม่ถึงไหนสักที่ เพราะหลายสิ่ง หลายอย่างในแต่ละวันมันมักจะมีเรื่องที่เกินความคาดหมายของเราเสมอ ฉะนั้นเราลองมาปรับมุมมองในการมองปัญหาที่มันเกิดขึ้นกันดีกว่า

Let’s look at the same problem through the lens of thinking in system.- Justin Sung-

🧩 3 Principles to take away

3 หลักการที่จะช่วยให้เราสร้างความคิดอย่างเป็นระบบ

🖤 Holistically

การคิดและมององค์ประกอบโดยรวมของ Goal ที่เราวางไว้ ลองมองมันในทุกๆมิติไม่ว่าจะเป็น Mental หรือ Physical และการมองดูว่ามีปัจจัยไหนบ้างที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จในเป้าหมายและความตั้งใจของเรา รวมไปถึงการคาดการณ์ไปถึงอุปสรรคที่จะเกิดขึ้น เช่น อยู่ๆ ก็ต้องเลิกงานช้ากว่าจะเดินทางถึงบ้าน ก็รู้สึกหมดแรงไปแล้ว หรือ ความขี้เกียจที่อยู่ๆ ก็โผ่ลมาแบบไม่ทันตั้งตัว

คำถามคือ อุปสรรคหรือความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ความท้าทายมันคืออะไร แล้วเราจะจัดการกับสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร

🖤 Repeatability

Principle ที่ 2 นี้จะเป็นส่วนที่เชื่อมโยงกับ Holistically โดยตรง

หลังจากที่เราคิดและวางแผนสิ่งที่เราจะทำ พร้อมด้วยการคาดการณ์ถึง worse case scenario ที่อาจจะเกิดขึ้นรวมไปถึงข้ออ้างต่างๆ ใด ที่ตัวเราจะยอมรับมันโดยง่ายอีก และถ้าสถานะการณ์เหล่านี้มันเกิดขึ้นบ่อยๆ ซ้ำๆ ไม่ว่าจะเป็นวันที่ยุ่งมาก หรือวันที่รู้สึกไม่โอเค เราจะทำอย่างไร

อย่างแรกเมื่อเรารู้สึกไม่โอเค อารมขุ่นมัวให้เราลองสำรวจตัวเองดูก่อนกว่า ตอนนี้เรากำลังหันไปพึ่งพา Well power หรือ Motivation มากเกินไปรึปล่าว เพียงเพราะสิ่งเหล่านี้มอดลง เราเลยไม่มีแรงจะทำอะไรเลยใ่มั้ย ถ้าเหตุการณ์มันไปในทิตทางนั้น เราก็ต้องถอยกลับมา 1 ก้าว เพื่อมองภาพกว้างอีกรอบว่า ในสถานการณ์แบบนี้ เราจะหลีกเลี่ยงมันยังไง ความ challenge ของสิ่งเหล่านี้คืออะไร มีวิธีการไหนบอกที่จะจัดการกับมันได้โดนง่าย

ซึ่งการทำงาน Back and forth ระหว่าง principle แรกและ principle ที่สองจะทำให้เรามองเห็นเหตุและผล มันจะทำให้เรารับมือกับสถานณะการณ์ที่ผ่านการพิจารณามาแล้วอย่างดีได้อย่างตรงจุด

ตัวอย่างสถานการณ์ เช่น ตอนนี้เรากำลังเตรียมสอบ Certificate อะไรสักอย่าง เราก็ plan แล้วแบ่งเวลาแล้วว่า เราจะอ่านหนังสือวันละ 1 บทหลังเลิกงาน แต่พลังงานมันกลับถูกดูดไประหว่างการเดินทางกลับบ้านนี่สิ 😵 เพราะว่าจะถึงบ้านรถก็ติด ข้าวก็หิว ถึงบ้านก็คงหมดอารมณ์จะทำอะไรๆ แล้วจริงมั้ย 😰😰😰

แต่มันจะดีกว่ามั้ยถ้าเรา ลองเลื่อนเวลากลับบ้านของเราออกไปอีกสัก 1 ชั่วโมง เพื่อให้เราได้อ่านหนังสือ หรือ นั่งเรียนสัก 1 บทเรียน เพื่อเป็นการ Save เวลา และ Save Energy ของเราไว้สำหรับการพัฒนาตัวเองใน session นั้นๆ

ปรับ Routine สักนิดชีวิตจะดี

วิธีการนี้เราลองกับตัวเองแล้ว เรารู้สึกว่ามัน work มากๆ ได้ทั้งใช้พลังงานชีวิตส่วนที่เหลือไปกับสิ่งที่ควรใช้ การหลีกเลี่ยงความวุ่นวายระหว่างทางกลับบ้าน 🐾🐾

แต่ถ้าสำหรับใครที่ลองแล้วไม่ work หรือมันไม่ตอบโจทย์กับชีวิตตัวเอง ก็อย่าเพิ่งตกใจ หรือว่าหมดกำลังใจนะคะ ทดลองหาวิธีที่มันจะตอบโจทย์ให้กับชีวิตของเราไปเรื่องๆ ผลลัพธ์จะออกมาดีแน่นอน

Just because your first solution isn’t perfect, it doesn’t mean that there’s no solution. There’s some combination of solutions that will work.- Justin Sung-

🖤 Peel the band-aids

นักรบย่อมมีบาดแผลเย้ยยยย ~~

ระหว่างการสร้าง process จนกระทั่งมาเป็น Thinking in system เรามักจะพบกับความเหนื่อยยาก หรือการฝืนทำอะไรเราไม่ค่อยถนัด เพื่อให้เราได้ก้ามข้ามปัญหา หรือสิ่งเร้าต่างๆ ที่เราเจอ

แต่เชื่อเถอะว่า “ยิ่งเลอะ ยิ่งเยอะประสบการณ์” การ Transform ตัวเองเป็น version ที่ดีที่สุดจาก
การเรียนรู้ผ่านปัญหาที่เกิด การล้มลุกคลุกคลานจากความผิดพลาด พอเราเอามันมา connect เข้าด้วยกันแล้วมันเป็นตัวเองที่แข็งแกร่ง

การนำพาตัวเองหลีกเลี่ยงจากข้ออ้างสาระพัดข้ออ้างที่เกิดขึ้นเพื่อขัดขว้างการเดินทางของเรา และการเรียนรู้ที่จะปรับวิธีการให้เหมาะกับสถานการณ์ และแผนการเดินทางเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย

เพื่อให้มันราบรื่น และเดินทางได้สะดุดน้อยลง

If you don’t make the chance, you live with the stress, pressure, anxiety, and disappointment of never making real progress on what matters to you
.- Justin Sung-

ถ้าให้สรุปรวมด้วยคำๆเดียวของการบาลานซ์ระหว่างการทำงานและการเรียนรู้ก็คงจะเป็นคำว่า….

“FOCUS”

ขอให้ทุกคนสนุกกับการเดินทางของตัวเองนะคะ 🧡

Reference :

https://www.youtube.com/watch?v=fXyRprdoEoE