Journey the Journal

ช่วงนี้กำลังติดฟัง podcast ของ Dan Koe ระหว่างกำลังเลื่อนหาเรื่องที่จะฟังก็ไปสะดุดกับ
เรื่อง How To Become So Self-Disciplined It Feels Illegal ความยาวของคลิปนี้อยู่ที่ประมาณ 26 นาที เนื้อเป็นการพูดถึง Self-Disciplined ที่แปลกใหม่ ซึ่งไม่ได้สอนให้เราสร้าง แต่สอนให้เราค้นหา

ความน่าสนในเริ่มตั้งแต่ Description ที่ว่า

“Disciplined comes from clarify, not force”

วินัยมาจากความชัดเจนไม่ใช้การบังคับ (รู้สึกแบบ ว้าววว ~ เริ่มกดฟังเล่ออออ 🐱‍👤)

วิธีการแก้ของเราคือพยากยามหาเครื่องตบสติให้ตัวเองเข้าที่เข้าทาง อย่างฟัง Podcast ฟังเพลงที่เป็นแนวแบบฮึกเห้อมมม อะไรแบบนี้ 🤣 มีใครเป็นเหมือนกันมั้ยแชร์ กันได้น้าาา ~

เราเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่าการสร้างวินัยเป็นเรื่องที่ยาก พยายามปลุกปั่นตัวเองมาเท่าไหร่ก็จะพลาดให้กับความขี้เกียจไม่ก็ข้ออ้างที่หามาซัพพอตความขี้เกียจนั้นจนได้ 😥

จากที่ได้ยิน ได้ฟัง จากผู้ที่ประสบความสำเร็จโดยส่วนใหญ่แล้วทุกคนมักจะพูดไปในทิตทางเดียวกันว่า ถ้าอยากประสบความสำเร็จเราจะเป็นที่ต้องมีวินัยในเรื่องที่เรากำลังอยู่ โดนที่เราต้องฝึกฝนตัวเองให้ทำในสิ่งๆนั้นอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ น้อยคนนักที่จะบอกให้เราเข้าใจกับการสร้างวินัยที่แท้จริง

Dan Koe ได้กล่าวไว้ในตอนตอนๆ คลิปว่า

If your feel like you have to force yourself to do something to achieve your goals, you’re going to lose and there’s something very wrong with the way that you’re going about achieving your goal.

นี่เรา….. “เรากำลังบังคับให้ตัวเองทำสิ่งๆนั้นอยู่ หรือเราอยากทำมันเองจริงๆ”

🧩 Definition of what you are doing

ก่อนที่เราจะเริ่มเดินทางไปยังเป้าหมายที่เราต้องไว้ เราเคลียกับตัวเองรึยังว่า สิ่งที่เราทำอยู่เป็นสิ่งที่เราอยากจะทำมันจริงๆ หรือเพียงแค่มีคนบอกว่าต้องทำนะ เพราะถ้าทำแล้วเราจะประสบความสำเร็จ เราเลยบังคับให้ตัวเองลงมือถือทำ โดยไม่รู้เลยว่าจุดหมายและเป้าหมายของตัวเราเองจริงๆคืออะไร

ฉะนั้นการให้ความชัดเจนกับสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ มันจะส่งผลให้ความพยายามของเราตั้งแต่ก้าวแรกมันไม่สูญเปล่า ✌

ถ้าเคลียคำตอบของตัวเราเองได้แล้ว มาไปกันต่อค่าาา

🧩 If you try to escape this life that you don’t want to live, why you have excuses.

ใครหลายคนก็คงมี Goals ที่ชัดเจนกันอยู่แล้วถูกมั้ยคะ แต่แปลกมั้ยทำไปถึงนานเท่าไหร่เราก็ยังไปไม่ถึงกันสักที ทั้งๆที่มีสิ่งที่ต้องทำมากมายแต่ทุกครั้งที่จะลงมือทำ ก็มักจะมีคำนี้ที่ตามมาเสมอ เช่น
วันนี้อยากออกไปวิ่งจังเลย แต่ขี้เกียจอะ , วันนี้ตั้งใจว่าจะเรียนสัก 1 บท แต่อยากดูซี่รี่นี่น่า ~~

ข้ออ้างเหล่านี้เราก็มักจะยอมมันอย่างง่ายได้ แล้วยังหาเหตุผลต่างๆมาซัพพอตมันให้ตัวเราเองสบายใจอีก เอ้าาา ไปกันใหญ่แล้วเนี่ยยยยย 55555

เราลองมาเปลี่ยนข้ออ้างให้เป็นคำว่า แต่ในอีกมุมนึงดูมั้ยคะ เช่น
วันนี้ขี้เกียจจังเลยยย แต่…..ถ้าเราไม่ลุกมาอ่านหนังสือสักหน่อย มันจะทำให้ชีวิตเราไม่เหมือนเดิมแล้วนะ เราอยากมองเห็นตัวเองอยู่ในรูปแบบไหนกันละ ตัวเราเองในรูปแบบไหนที่จะพาเราไปถึงเป้าหมายที่เราวางไว้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเราแล้วหล่ะ 😉

🧩 Discipline is a feature of identity.

สร้างความมีวินัยจากการค้นหาตัวตนของเรา ซึ่งเราต้องรู้ก่อนว่าสิ่งที่เราทำอยู่ตอนนี้มันทำให้เราเหนื่อย และใส่ความพยายามมากไปแล้วมันไม่เกิดผลอะไรเลยอยู่รึปล่าว เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น เราจะไม่สามารถทำสิ่งนั้นได้นาน และล้มเลิกไปในที่สุด

เพราะพฤติกรรมของมนุษย์ส่วนใหญ่ เวลาที่เรารู้สึกเบื่อหรือไม่อยากทำสิ่งๆนั้นเรา เราจะหาทางรอดให้กับตัวเอง ไม่ก็บังคับตัวเองให้ทำบางอย่างเพื่อเป็นการออกจากจุดๆ เดิมที่เราเคยอยู่ ซึ่งการบังคับตัวเองแบบนี้จะทำให้เราทำสิ่งๆนั้นไม่ได้นาน สังเกตง่ายๆก็คือ speed ในการทำหรือความสนใจในเรื่องนั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องใหม่ เราก็จะไม่อยากทำมันแล้ว และนี่คือจุดที่ใครหลายๆคนที่ลองทำอะไรหลายๆ อย่างแล้วก็ล้มเลิกไปซะหมด เพราะยังไม่เคยทำความเข้าใจกับตัวเองเลยว่าแท้จริงแล้ว
ตัวตนของเราเป็นยังไง แล้วอยากทำสิ่งใดกันแน่

“แล้วเราจะทำยังไง ให้เราออกแบบตัวตนของเราได้อย่างถูกต้อง
และสร้างวินัยที่มันเหมาะกับตัวเราได้กันนะ”

🧩 To completely clarify with yourself.

การค้นหาตัวเองเพื่อสร้างวินัยที่ที่เหมาะสม เหมือนจะเป็นเรื่องที่ฟังดูยากและก็ซับซ้อน
Dan Koe ได้แนะนำให้เริ่มจากความคิดของเราก่อน

1. Write out: ให้เขียนในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ หรือสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตไม่ว่าจะเป็นเรื่องอดีตหรือในปัจจุบัน ที่เราพยายามปิดกันหรือหลบมันมาตลอด เพราะเราไม่อยากให้อันเกิดขึ้นอีก และเขียนคู่กับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ถ้าเราไม่ยอมเปลี่ยนแปลง หรือ เผชิญหน้ากับมัน
2. Loop of thinking: ลองใช้เวลาคิดวนลูปอยู่กับเรื่องราวที่เราเขียนบนกระดาษ ลองจิตนาการถึงชีวิตที่เราไม่อยากได้ตามที่เรา List ออกมา ผลกระทบมันจะออกมาในรูปแบบไหน

ถ้าสมองของเราคิดวนสิ่งเหล่านี้ไปเรื่อยๆ มันจะเริ่มคิดหาวิธีแก้ไขและหาทางออกที่ดีที่สุดเพื่อยอมรับในกาารเปลี่ยนแปลง โดยที่มันจะเลือกวิธีที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้เรากลับไปในจุดนั้นอีก เป็นเหมือนกับสัญชาตญาณการเอาตัวรอดที่เกิดขึ้น

เมื่อเราฟังและพิจารณาที่อย่างด้วยความเข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกจากลูปชีวิตเดิมๆที่เราไม่อยากมีโดนเริ่มจากการตั้งคำถามกับตัวเองและให้เวลาในการพูดคุยกับตัวเอง ความเข้าใจบวกกับวิธีการที่ดีที่สุดในการนำพาตัวเองออกมาจากเหตุการณ์เหล่านั้น มันจะทำให้เราทำสิ่งๆนั้นโดนไม่ค้างคา ไม่เกิดการบังคับให้ร่างกายเราทำมันอีกต่อไป

The pain of regret is worse than pain of discipline – Dan Koe-

เป็นที่วิธีที่ซับซ้อนแล้วดู ค่อนข้างเข้าใจยากพอสมควร แต่ถ้าเราค่อยทำมันการเปิดพื้นที่ในตัวเราสร้างวินัยในแบบของเรามันก็คงจะไม่ยากอีกต่อไป แถมยังทำมันได้เรื่อยๆแบบไม่เบื่ออีกด้วย เริ่มมีความหวังในการลุยเพื่อเป้าหมายของเราแล้ว เย้ ~

เรามาลองช่างน้ำหนักดูว่าการที่เราทำสิ่งที่มันค่อนข้างยากในตอนนี้เพื่อเป็น
การ aware ตัวเองว่าเราจะจมอยู่กับสิ่งที่ไม่ชอบอีกนานแค่ไหนถึงจะเปลี่ยนแปลง
หรือ จะยอมอยู่กับชีวิตแบบเดิมต่อไปเรื่อยๆ 😵

🧩 Discipline isn’t build, it’s discovered.

การมีวินัยไม่ใช่การสร้างมันขึ้นมา เป็นการค้นหาทางที่เหมาะเราเพื่อให้เราทำสิ่งนั้นได้อย่างต่อเนื่อง

🎯 โดยเริ่มจากการเข้าถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิต

คนส่วนใหญ่มันจะเพิกเฉยกับสิ่งที่เรียกว่าปัญหา เพราะไม่อยากเข้าใจว่าการมีชีวิตคือ มหากาฬที่เต็มไปด้วยปัญญา ที่เราต้องเรียนรู้ หาทางแก้ไข และเติบโตไปพร้อมกับมัน

ฉะนั่นการมีวินัยในการเรียนรู้ในทุกๆวัน ถือเป็นเรื่องที่สำคัญในการที่จะเดินทางถึงเป้าหมาย
ได้อย่างสมบรูณ์

🎯 หลีกเลี่ยงไม่ให้ตัวเองรู้สึกหลงทางหรือติดค้าง

เราต้องรู้ตัวตนของเราก่อนว่า เราเป็นใครและอยากเติบโตไปในทิศทางไหน ฉะนั้นเราต้องถามตัวเองเสมอว่า ถ้าเราไม่เริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรเลย แล้วตัวเราในวันข้างหน้าจะเป็นเราในรูปแบบไหน

การมีวินัยในตัวเองอยากพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อยๆ จึงถึงเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางในเราขยับเข้าใกล้เป้าหมายของชีวิตเราได้มากขึ้น

🎯คัดเลือกการเสพสื่อ

การสร้าง environment ให้ตัวเราเอง ได้อยู่ในพื้นที่ที่รวบรวมสื่อ และ content ที่เป็นประโยชน์ให้กับตัวเรา ในการพัฒนาเราตัวตนของเราให้ก้าวไปข้างหน้า โดยที่เราสามารถหยิบโยงเรื่องราวที่เราได้เรียนรู้เขาปรับใช้ให้เป็นวิธีการที่เหมาะกับเรา นั่นจะให้เรารู้สึกอย่างเรียนรู้และอยากพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา

ความมีวินัยของตัวเองต้องเกิดจากการเข้าใจตัวเองก่อน แล้วเราถึงจะเจอทางที่เหมาะกับเรา

ขอให้ทุกคนสนุกกับการเดินทาง แล้วพบกันใหม่สัปดาห์หน้านะคะ ❤

Reference :